เข้าใจ สัญญาจะซื้อจะขายบ้าน สิ่งที่ผู้ซื้อและผู้ขายควรรู้

 เข้าใจ สัญญาจะซื้อจะขายบ้าน : สิ่งที่ผู้ซื้อและผู้ขายควรรู้

สัญญาจะซื้อจะขายบ้าน คือข้อตกลงล่วงหน้าที่มีผลผูกพันตามกฎหมายระหว่าง ผู้ขาย และ ผู้ซื้อ เพื่อแสดงเจตจำนงร่วมกันในการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ในอนาคต โดยเฉพาะบ้านหรือที่ดิน ซึ่งเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูง

บทความนี้จะพาคุณทำความเข้าใจในประเด็นสำคัญของสัญญาจะซื้อจะขายบ้าน ตั้งแต่โครงสร้าง เนื้อหา ไปจนถึงข้อควรระวังต่าง ๆ ที่คุณควรรู้ก่อนเซ็นชื่อในเอกสารสำคัญนี้


สัญญาจะซื้อจะขายบ้าน คืออะไร?

เป็นเอกสารที่ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายลงนาม เพื่อยืนยันความตกลงกันล่วงหน้าในการซื้อขายบ้านในราคาที่ตกลงกันไว้ พร้อมทั้งกำหนดวันโอนกรรมสิทธิ์ และเงื่อนไขอื่น ๆ เช่น:

  • การวางเงินมัดจำ

  • การตรวจสอบเอกสาร

  • การยื่นขอสินเชื่อกับธนาคาร


ทำไมต้องมี “สัญญาจะซื้อจะขาย”?

  • ป้องกันการเปลี่ยนแปลงใจของทั้งสองฝ่าย

  • ใช้เป็นหลักฐานทางกฎหมาย หากเกิดข้อพิพาท

  • ระบุรายละเอียดสำคัญ เช่น ราคา วันโอน ค่าธรรมเนียม

  • อำนวยความสะดวกในการยื่นขอสินเชื่อกับธนาคาร


โครงสร้างของสัญญาจะซื้อจะขายบ้าน

สัญญาที่รัดกุมควรมีหัวข้อสำคัญ ดังนี้:

1. ข้อมูลของคู่สัญญา

  • ชื่อ-นามสกุล

  • ที่อยู่

  • เลขประจำตัวประชาชน

  • สถานภาพ (ผู้ซื้อ / ผู้ขาย)

2. รายละเอียดทรัพย์สิน

  • เลขที่โฉนด / ที่ตั้งบ้าน

  • ขนาดพื้นที่

  • รายละเอียดสิ่งปลูกสร้าง (ถ้ามี)

3. ราคาขายและการชำระเงิน

  • ราคาซื้อขายรวม

  • จำนวนเงินมัดจำ

  • เงื่อนไขการผ่อนชำระ (ถ้ามี)

  • วันที่นัดโอนกรรมสิทธิ์

4. ข้อกำหนดเกี่ยวกับค่าใช้จ่าย

  • ค่าธรรมเนียมโอน

  • ค่าอากรแสตมป์

  • ภาษีธุรกิจเฉพาะ

5. เงื่อนไขบังคับ

  • การผิดสัญญา

  • การยึดเงินมัดจำหรือการคืนเงิน

  • กรณีการเลื่อนวันโอน

6. วันและสถานที่โอนกรรมสิทธิ์

  • โดยปกติจะระบุให้ดำเนินการที่ สำนักงานที่ดิน ในเขตพื้นที่ทรัพย์สินตั้งอยู่


ตัวอย่างสถานการณ์จริง

📝 กรณีที่ 1: ผู้ขายยกเลิกขายกะทันหัน

หากมีการทำสัญญาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ผู้ซื้อสามารถดำเนินคดีเพื่อฟ้องเรียกค่าเสียหาย หรือให้ศาลบังคับการโอนกรรมสิทธิ์ได้

📝 กรณีที่ 2: ผู้ซื้อกู้ธนาคารไม่ผ่าน

หากระบุไว้ในสัญญาว่า หากกู้ไม่ผ่านภายในเวลาที่กำหนด สามารถขอยกเลิกสัญญาและขอคืนเงินมัดจำได้ ผู้ซื้อจะไม่ต้องเสียเงินเปล่า


ข้อควรระวังในการทำสัญญาจะซื้อจะขายบ้าน

  • ตรวจสอบสิทธิ์ความเป็นเจ้าของจากโฉนด

  • ตรวจสอบภาระผูกพัน เช่น การจำนอง คดีความ

  • อ่านสัญญาให้ละเอียด ครบถ้วน

  • ขอสำเนาสัญญาเก็บไว้

  • หากไม่มั่นใจ ควรปรึกษาทนายความหรือผู้เชี่ยวชาญ


เคล็ดลับสำหรับผู้ซื้อบ้านมือใหม่

  • อย่าจ่ายเงินมัดจำก่อนทำสัญญา

  • ตรวจสอบค่าใช้จ่ายล่วงหน้า เช่น ค่าธรรมเนียมโอน ภาษีต่าง ๆ

  • เลือกใช้แบบฟอร์มสัญญามาตรฐานของกรมที่ดิน หรือขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ


สรุป

สัญญาจะซื้อจะขายบ้าน” คือเครื่องมือสำคัญที่ช่วย ปกป้องสิทธิของทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย หากมีการจัดทำอย่างรัดกุมและเป็นธรรม ก็จะช่วยให้กระบวนการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์เป็นไปอย่างมั่นใจและปลอดภัยยิ่งขึ้น

หากคุณสนใจรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ โครงการบ้านสุขใจสามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่: www.baansookjai.com

รีวิวลูกค้าของเรา

อยากมีบ้าน ปรึกษาเรา

บริการที่ปรึกษาเพื่อการซื้อบ้าน พร้อมให้คำแนะนำเพื่อให้การซื้อบ้านง่ายขึ้น

เราช่วยให้คุณมีบ้านได้
เพียงลงทะเบียนรับคำแนะนำการกู้ซิ้อบ้าน