การเตรียมตัวและขั้นตอนการกู้ซื้อบ้าน ไม่ยากผ่านง่ายกว่าที่คิด

ความฝันของใครหลายคนคือการมีบ้านเป็นของตัวเอง แต่ในสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันที่ดอกเบี้ยสูง การกู้ซื้อบ้านอาจดูเป็นเรื่องท้าทาย อย่างไรก็ตาม ด้วยการเตรียมตัวที่ดีและเข้าใจขั้นตอนการขอสินเชื่อบ้าน คุณก็สามารถทำให้ความฝันนั้นเป็นจริงได้ บ้านสุขใจ บึงพระ พิษณุโลก ชวนมาคุยวิธีการเตรียมตัวเพื่อให้การกู้บ้านผ่านง่ายขึ้น

ขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนขอสินเชื่อบ้าน

ในความเป็นจริง ธนาคารไม่ได้ต้องการทรัพย์สินของลูกค้า แต่เมื่อลูกค้ามากู้เงินขอสินเชื่อเพื่อซื้อบ้าน ธนาคารต้องการเพียงเงินกู้ที่ตกลงกันไว้ พร้อมการชำระคืนทุกเดือนอย่างสม่ำเสมอ ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย ดังนั้นสิ่งที่ธนาคารจะพิจารณาเป็นอันดับแรกคือ ศักยภาพในการชำระหนี้ของผู้กู้ โดยพิจารณาจากประวัติการใช้จ่ายของผู้กู้เป็นหลัก

  1. สำรวจรายได้
    ก่อนอื่น ให้ประเมินรายได้ของตัวเองอย่างละเอียด ทั้งรายได้ประจำและรายได้เสริม เพื่อให้ทราบว่ามีความสามารถในการผ่อนชำระต่อเดือนเท่าไร โดยทั่วไป ธนาคารจะพิจารณาให้วงเงินกู้ประมาณ 50-60 % ของรายได้สุทธิ
  2. ลดการผ่อนสินค้า
    พยายามลดภาระหนี้สินอื่นๆ ให้มากที่สุด เช่น ปิดบัตรเครดิต ชำระหนี้บัตรกดเงินสด หรือหนี้ก้อนเล็กอื่นๆ ให้หมด เพื่อเพิ่มความสามารถในการกู้
  3. เงินเก็บออม
    เตรียมเงินออมสำหรับเป็นเงินดาวน์ โดยทั่วไปควรมีเงินออมประมาณ 10-20% ของราคาบ้าน นอกจากนี้ ควรมีเงินสำรองสำหรับค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าโอน ค่าจดจำนอง
  4. เอกสารการเงิน
    เตรียมเอกสารทางการเงินให้พร้อม เช่น สลิปเงินเดือน หลักฐานการเสียภาษี (ภ.ง.ด.90 หรือ 91) สำหรับผู้ประกอบอาชีพอิสระ ควรเตรียมหลักฐานรายได้และการเสียภาษีย้อนหลังอย่างน้อย 6-12 เดือน
    การเดินบัญชีคงเหลือ
    รักษาสถานะบัญชีธนาคารให้ดี มีเงินหมุนเวียนสม่ำเสมอ และมียอดคงเหลือที่ดี อย่าให้บัญชีติดลบหรือมีการถอนเงินจนหมด


ทั้งหมดนี้มีผลต่อคะแนนความน่าเชื่อถือทางการเงิน (Credit Score) ที่ทุกธนาคารสามารถตรวจสอบเพื่อพิจารณาอนุมัติวงเงินกู้ได้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ ‘เครดิตบูโร’ จากบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ บางธนาคารจะพิจารณาร่วมกับปัจจัยอื่น ๆ เช่น สถานที่ทำงาน รายได้ต่อเดือน มีหนี้สินและภาระคงค้างเท่าไร เคยมีหนี้เสียหรือไม่จากอะไร

คุณสมบัติผู้กู้

  1. ผู้บรรลุนิติภาวะ 20 ปี ขึ้นไป
  2. ทำงานประจำหรืออาชีพอิสระที่มีรายได้มั่นคง
  3. มีประวัติเครดิตที่ดี ไม่มีหนี้เสียหรือการผิดนัดชำระ
  4. มีความสามารถในการผ่อนชำระตามเกณฑ์ของธนาคาร

เอกสารที่ต้องเตรียม

หลังจากเลือกธนาคารได้แล้ว ขั้นตอนถัดมา คือ การยื่นเอกสารที่จำเป็นต่อการกู้ซื้อบ้าน หรือเอกสารของผู้กู้ร่วม (ถ้ามี) โดยรายละเอียดและเอกสารต่าง ๆ จะแตกต่างกันไปบ้างตามรูปแบบรายรับและการประกอบอาชีพของผู้กู้ ไม่ว่าจะเป็นพนักงานประจำ อาชีพอิสระ หรือเจ้าของธุรกิจ ธนาคารจะทำการแจ้งให้ทราบถึงเอกสารที่เกี่ยวข้อง หรือโครงการบ้านจะช่วยประสานงาน เดินเรื่อง และติดตามผลการอนุมัติให้เสร็จสรรพเช่นเดียวกับ บ้านสุขใจ บึงพระ พิษณุโลก

  1. เอกสารส่วนตัว
    1.1 สำเนาบัตรประชาชน
    1.2. หลักฐานการเปลี่ยนชื่อ-สกุล (ถ้ามี)
    1.3 สำเนาทะเบียนสมรส (ถ้ามี) พร้อมสำเนาบัตรประชาชนของคู่สมรส
  2. เอกสารทางการเงิน
    2.1 กรณีเป็นพนักงานประจำจะใช้หนังสือรับรองเงินเดือน, สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 3-6 เดือน, สำเนาเดินบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน
    2.2กรณีเจ้าของกิจการ หรือผู้ประกอบอาชีพอิสระ ใช้เอกสารสำเนาเดินบัญชีย้อนหลัง 12 เดือน, หลักฐานทางการเงินอื่น ๆ (ฉบับจริง) เอกสารแสดงความเป็นเจ้าของกิจการ ทะเบียนบริษัท หรือทะเบียนห้างหุ้นส่วน, การเสียภาษี ภ.ง.ด.90 หรือ 91, รูปถ่ายกิจการ, กรณีเป็นวิชาชีพเฉพาะ ต้องใช้ใบประกอบวิชาชีพด้วย

ขั้นตอนการทำเรื่องกู้ซื้อบ้าน

  1. ศึกษาข้อมูลและเปรียบเทียบสินเชื่อบ้านจากหลายๆ ธนาคาร
  2. เตรียมเอกสารให้พร้อมและครบถ้วน
  3. ยื่นคำขอสินเชื่อกับธนาคารที่สนใจ
  4. รอการพิจารณาและประเมินราคาหลักประกันจากธนาคาร
  5. เมื่อได้รับการอนุมัติ ศึกษาเงื่อนไขสัญญาอย่างละเอียด
  6. ทำนิติกรรมสัญญาและจดจำนอง
  7. รับเงินกู้และเริ่มผ่อนชำระตามเงื่อนไข

ข้อควรรู้เกี่ยวกับการกู้บ้านให้ผ่านในครั้งเดียว

  1. มีเงินก้อนและรายการเดินบัญชีเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ
    แม้จะมีเงินเก็บหรือเงินก้อนอยู่ในบัญชี แต่หากไม่มีประวัติการใช้จ่ายหรือการทำธุรกรรมที่ชัดเจน ธนาคารอาจมองว่าเป็น “White Statement” ซึ่งอาจทำให้ธนาคารไม่มั่นใจในความสามารถในการชำระหนี้
  2. ธนาคารต้องการความมั่นคงทางการเงิน ธนาคารจะพิจารณาศักยภาพในการชำระหนี้ผ่านประวัติการใช้จ่ายและการทำธุรกรรม การไม่มีประวัติการกู้ยืมหรือจ่ายหนี้มาก่อน อาจทำให้ธนาคารไม่มั่นใจในความสามารถในการชำระหนี้คืนอย่างสม่ำเสมอ
  3. สร้างประวัติการใช้จ่ายด้วยบัตรเครดิต การใช้บัตรเครดิตและมีหนี้ที่สามารถอ้างอิงได้ เป็นหนึ่งในวิธีที่ช่วยสร้างประวัติการชำระเงิน ควรหลีกเลี่ยงการจ่ายเงินขั้นต่ำและควรจ่ายมากกว่าขั้นต่ำเพื่อแสดงถึงความสามารถในการจัดการหนี้สินอย่างมีประสิทธิภาพ
  4. เงินดาวน์ไม่ใช่ตัวบ่งชี้เพียงอย่างเดียว การมีเงินดาวน์ก้อนใหญ่ไม่ได้การันตีความสามารถชำระหนี้ในอนาคตได้ ธนาคารจะพิจารณารายรับประจำ และประวัติการชำระหนี้ให้ตรงเวลาอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการอนุมัติสินเชื่อ
  5. แสดงให้เห็นถึงรายรับที่สม่ำเสมอ การมีรายรับที่มั่นคงและสม่ำเสมอจะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับธนาคารว่าสามารถชำระเงินกู้


การกู้ซื้อบ้านอาจดูเป็นเรื่องยุ่งยาก แต่ด้วยการเตรียมตัวที่ดีและเข้าใจขั้นตอน คุณก็สามารถทำให้ความฝันเรื่องบ้านเป็นจริงได้ หากคุณกำลังมองหาบ้านพร้อมอยู่และต้องการคำปรึกษาเรื่องการกู้บ้าน บ้านสุขใจ บึงพระ พิษณุโลก พร้อมให้คำแนะนำและช่วยให้คุณเข้าถึงสินเชื่อบ้านได้ง่ายขึ้น เรามีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการให้คำปรึกษาด้านสินเชื่อบ้าน พร้อมช่วยวางแผนการเงินและเลือกแพ็กเกจสินเชื่อที่เหมาะสมกับความต้องการ

อย่าลืมว่าการรักษาประวัติเครดิตให้ดีและมีวินัยทางการเงินเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้การกู้ซื้อบ้านของคุณผ่านได้อย่างราบรื่น มาปรึกษาเรื่องการกู้ซื้อบ้านกับ บ้านสุขใจ บึงพระ พิษณุโลก วันนี้ เพื่อก้าวแรกสู่การมีบ้านในฝันของคุณ

 

อยากมีบ้าน ปรึกษาเรา

บริการที่ปรึกษาเพื่อการซื้อบ้าน พร้อมให้คำแนะนำเพื่อให้การซื้อบ้านง่ายขึ้น

เราช่วยให้คุณมีบ้านได้
เพียงลงทะเบียนรับคำแนะนำการกู้ซิ้อบ้าน