วัสดุก่อสร้างที่ใช้ในบ้านมีผลยังไงต่อความปลอดภัยและสุขภาพ?
บ้านคือพื้นที่ที่เราใช้เวลาอยู่มากที่สุดในชีวิต การเลือกวัสดุก่อสร้างที่ดีไม่เพียงส่งผลต่อความแข็งแรงของโครงสร้าง แต่ยังส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัย โดยเฉพาะในยุคที่ผู้คนให้ความสำคัญกับ “บ้านเพื่อสุขภาพ” มากขึ้นเรื่อยๆ
บทความนี้จะพาคุณเข้าใจลึกขึ้นว่า วัสดุก่อสร้างแต่ละชนิดมีผลอย่างไรต่อความปลอดภัยและสุขภาพ พร้อมทั้งแนวทางในการเลือกใช้วัสดุให้ปลอดภัยในระยะยาว
🔒 วัสดุก่อสร้างส่งผลต่อ “ความปลอดภัย” ของบ้านอย่างไร?
1. ความมั่นคงแข็งแรงของโครงสร้าง
วัสดุที่ใช้กับโครงสร้างหลัก เช่น ปูน เหล็ก คอนกรีต หรือไม้ หากไม่ได้มาตรฐาน จะทำให้เกิดปัญหาต่อความแข็งแรงของบ้านในระยะยาว เช่น
โครงสร้างทรุด
ผนังแตกร้าว
เพดานพังถล่ม
ไม่สามารถต้านแรงลม/แรงแผ่นดินไหว
✅ เลือกใช้วัสดุที่ผ่านมาตรฐาน มอก. (มาตรฐานอุตสาหกรรมไทย) หรือมาตรฐานสากล เช่น ASTM, ISO
2. การกันไฟและความร้อน
บ้านควรเลือกวัสดุที่ ไม่ติดไฟง่าย โดยเฉพาะในส่วนของหลังคา ผนัง และฝ้าเพดาน เช่น
ใช้ ใยแก้ว แผ่นยิปซั่มกันไฟ (Fire-rated Gypsum Board)
ฉนวนกันความร้อน ที่ไม่ลามไฟ
หลีกเลี่ยงวัสดุที่ทำจากโฟมที่ติดไฟได้ง่าย
🔥 วัสดุกันไฟช่วยลดความรุนแรงของอัคคีภัย เพิ่มเวลาในการอพยพ และลดความเสียหายต่อทรัพย์สิน
3. พิษภัยจากวัสดุสารเคมีตกค้าง
วัสดุบางชนิด เช่น สีทาบ้าน พื้นไม้ลามิเนต หรือกาว อาจปล่อยสารระเหยอย่าง Formaldehyde หรือ VOCs (Volatile Organic Compounds) ที่เป็นพิษต่อร่างกาย
อาการที่อาจเกิด:
ปวดหัว เวียนศีรษะ
แสบตา คัดจมูก
เป็นภูมิแพ้ หรือโรคทางเดินหายใจ
ในระยะยาวอาจเสี่ยงมะเร็ง
✅ เลือกวัสดุที่ได้รับสัญลักษณ์ Low VOC / ไม่มีสารระเหย หรือวัสดุเกรด ECO
🩺 วัสดุก่อสร้างส่งผลต่อ “สุขภาพ” ผู้อยู่อาศัยอย่างไร?
1. คุณภาพอากาศภายในบ้าน (Indoor Air Quality)
วัสดุเช่น สีทาภายใน, แผ่นปูพื้น, เฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน หากปล่อยสาร VOCs หรือเชื้อรา จะทำให้คุณภาพอากาศในบ้านแย่ลง
📌 โดยเฉพาะในบ้านที่ระบบระบายอากาศไม่ดี (เช่น คอนโดมิเนียม) อากาศเสียจะสะสมภายใน
✅ ทางแก้: ใช้วัสดุไร้สารพิษ ติดตั้งระบบระบายอากาศ และมีต้นไม้ฟอกอากาศเสริม
2. ป้องกันภูมิแพ้ เชื้อรา และแบคทีเรีย
วัสดุก่อสร้างที่มีรอยรั่วซึม เช่น ผนังที่ไม่ได้กันความชื้น หรือกระเบื้องร้าว จะสะสมความชื้นทำให้เกิดเชื้อรา ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของภูมิแพ้ในบ้าน
วัสดุแนะนำ:
สีทาภายในชนิดกันเชื้อรา
แผ่นกันซึม (Waterproof Membrane) สำหรับห้องน้ำ
กระเบื้องชนิดดูดซึมน้ำต่ำ
3. เสียงรบกวนจากภายนอก (Noise Pollution)
วัสดุผนัง พื้น และประตู/หน้าต่าง ที่ไม่มีคุณสมบัติกันเสียง อาจส่งผลให้ผู้อยู่อาศัยนอนหลับไม่สนิท เครียด หรือไม่มีสมาธิในการทำงาน
✅ ทางแก้: เลือกผนังเบากันเสียง หรือวัสดุชนิด Soundproof เช่น
ผนัง 2 ชั้นบวกฉนวนใยแก้ว
หน้าต่างกระจก 2 ชั้น (Double Glazing)
พื้นไม้ลามิเนตแบบ Acoustic
4. อุณหภูมิภายในบ้าน
วัสดุที่ไม่มีคุณสมบัติกันร้อนจะทำให้บ้านร้อนจัดในเวลากลางวัน โดยเฉพาะในประเทศไทยที่มีอุณหภูมิสูงเกือบทั้งปี
สิ่งที่ส่งผลต่ออุณหภูมิ เช่น
หลังคา (ควรใช้กระเบื้องสะท้อนความร้อน)
ผนัง (ควรมีฉนวนในผนัง)
หน้าต่าง (ควรเลือกกระจก Low-E)
✅ เคล็ดลับการเลือกวัสดุก่อสร้างเพื่อ “บ้านสุขภาพดี” (Healthy Home)
ประเภทวัสดุ | สิ่งที่ควรเลือก | ข้อควรระวัง |
---|---|---|
สีทาบ้าน | สีที่ไม่มี VOC หรือกลิ่นฉุน | หลีกเลี่ยงสีถูกที่ไม่มีใบรับรอง |
พื้นบ้าน | ไม้จริง/กระเบื้อง/ไวนิลแบบ ECO | ไม้ลามิเนตราคาถูกที่ปล่อยสารเคมี |
หลังคา | กระเบื้องสะท้อนความร้อน + ฉนวน PU | หลังคาสังกะสีเก็บความร้อนสูง |
ผนัง | มวลเบา + ฉนวนกันความร้อน/เสียง | ผนังบางที่กักเสียงไม่ได้ |
กาว/ยึดวัสดุ | กาวไร้กลิ่น ไร้โทลูอีน | กาวน้ำมัน กลิ่นแรง |
📍 สรุป: วัสดุก่อสร้าง = ปัจจัยพื้นฐานของคุณภาพชีวิต
การเลือกวัสดุก่อสร้างไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงามหรือราคา แต่คือการลงทุนใน “คุณภาพชีวิต” และ “สุขภาพระยะยาว” ของทั้งครอบครัว
บ้านที่ดีควรเป็นมากกว่าที่พักอาศัย — มันควรเป็นพื้นที่ปลอดภัยที่หายใจได้เต็มปอด และอยู่ได้อย่างมั่นใจทุกวัน