มีหนี้บัตรเครดิตอยู่ ยังสามารถขอสินเชื่อบ้านได้ไหม?

มีหนี้บัตรเครดิตอยู่ ยังสามารถขอสินเชื่อบ้านได้ไหม?

ไขทุกข้อสงสัยสำหรับคนที่อยากมีบ้านแต่ยังมีภาระหนี้

ในยุคที่การใช้บัตรเครดิตเป็นเรื่องปกติ ไม่ว่าจะเพื่อแบ่งจ่ายสินค้า ซื้อของออนไลน์ หรือสะสมคะแนน หลายคนจึงมี “หนี้บัตรเครดิต” ติดอยู่เป็นประจำ ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิดปกติแต่อย่างใด

แต่เมื่อถึงเวลาที่คุณต้องการ ขอสินเชื่อบ้าน (Mortgage Loan) หนึ่งในคำถามยอดฮิตที่เกิดขึ้นคือ…

“มีหนี้บัตรเครดิตอยู่ ธนาคารจะอนุมัติสินเชื่อบ้านให้หรือเปล่า?”
“ผ่อนบัตรอยู่หลายใบ จะมีผลต่อการกู้ซื้อบ้านไหม?”

บทความนี้จะพาคุณไปดูทุกแง่มุมอย่างละเอียดว่า “หนี้บัตรเครดิต” มีผลต่อการยื่นกู้บ้านอย่างไร พร้อมแนะนำวิธีจัดการอย่างชาญฉลาดเพื่อให้ขอสินเชื่อบ้านผ่านได้ง่ายขึ้น


🧾 หนี้บัตรเครดิตมีผลต่อการยื่นสินเชื่อบ้านหรือไม่?

คำตอบคือ: มีผลแน่นอนครับ
เพราะธนาคารจะใช้ข้อมูลด้าน “ภาระหนี้สิน” และ “ประวัติเครดิต” เป็นหนึ่งในปัจจัยหลักในการประเมินความสามารถในการกู้บ้านของคุณ

ธนาคารจะดูจาก:

  • ยอดหนี้บัตรเครดิตคงค้าง

  • พฤติกรรมการจ่ายหนี้ย้อนหลัง (ผ่านเครดิตบูโร)

  • ภาระหนี้รวมต่อเดือน (Debt to Income Ratio)

  • การใช้วงเงินบัตรเครดิตในแต่ละเดือน


🔍 1. ธนาคารดูอะไรจาก “หนี้บัตรเครดิต”?

✅ 1.1 ยอดหนี้บัตรเครดิตที่คงค้าง

  • หากคุณมีหนี้บัตรเครดิตค้างอยู่ และจ่ายแต่ขั้นต่ำต่อเนื่องหลายเดือน → อาจถูกมองว่า “มีภาระหนี้สูง” และมีความเสี่ยง

  • หากชำระเต็มจำนวนทุกเดือน → ส่งผลดีต่อเครดิต

คำแนะนำ: หากเป็นไปได้ ควรเคลียร์หนี้บัตรเครดิตให้เหลือ น้อยกว่า 30% ของวงเงินทั้งหมด ก่อนยื่นกู้


✅ 1.2 พฤติกรรมการชำระหนี้ (ประวัติเครดิตบูโร)

  • หากมีการ “ค้างจ่าย” หรือ “จ่ายช้า” แม้เพียง 1–2 เดือน ก็อาจทำให้เครดิตเสีย

  • ธนาคารมักเช็กย้อนหลัง 12–24 เดือน

  • ถ้ามีประวัติค้างชำระมาก่อน แต่ตอนนี้กลับมาจ่ายดีแล้ว ก็ยังสามารถกู้ได้ แต่ธนาคารอาจขอหลักฐานเพิ่ม

คำแนะนำ: เช็กเครดิตบูโรของตัวเองล่วงหน้า หากมีปัญหา ควรเคลียร์ให้เรียบร้อยก่อนยื่นกู้ประมาณ 3–6 เดือน


✅ 1.3 ภาระหนี้รวมต่อเดือน (Debt-to-Income Ratio)

  • ธนาคารจะคำนวณว่า คุณใช้รายได้ไปกับ “การผ่อนหนี้” มากแค่ไหน

  • ปกติธนาคารกำหนดให้ภาระหนี้รวม ไม่ควรเกิน 40–50% ของรายได้ต่อเดือน

ตัวอย่าง:

  • รายได้ต่อเดือน 30,000 บาท

  • ธนาคารอนุญาตให้มีภาระหนี้รวมได้ไม่เกิน 15,000 บาท

  • หากคุณผ่อนบัตรเครดิตเดือนละ 5,000 บาท → เหลือวงเงินสำหรับผ่อนบ้านแค่ 10,000 บาท

คำแนะนำ: ลดภาระหนี้บัตรเครดิตลงให้เหลือน้อยที่สุดก่อนยื่นกู้ เพื่อให้ธนาคารอนุมัติวงเงินผ่อนบ้านได้สูงขึ้น


❗️ 2. ข้อควรระวังสำหรับคนที่มีหนี้บัตรเครดิต

  • อย่าผ่อนขั้นต่ำเป็นเวลานาน → เสียเครดิต + เสียดอกเบี้ยสูง

  • หลีกเลี่ยงการเปิดบัตรใหม่หรือใช้วงเงินเต็มก่อนยื่นกู้

  • อย่าสมัครสินเชื่อหลายรายการพร้อมกัน → อาจถูกมองว่า “ต้องการเงินสดด่วน”

  • หากต้องการขอสินเชื่อร่วม ควรตรวจเครดิตของผู้ร่วมกู้ด้วย


📋 3. สิ่งที่ควรทำก่อนยื่นขอสินเชื่อบ้าน หากคุณมีหนี้บัตรเครดิต

🔹 ตรวจเครดิตบูโรของตนเอง

สามารถเช็กผ่านแอปฯ หรือบริการออนไลน์ ใช้เวลาไม่เกิน 3 วันก็รู้ผล

🔹 เคลียร์หนี้ให้เบาที่สุด

จ่ายให้หมดหรืออย่างน้อยให้เหลือไม่เกิน 30% ของวงเงินบัตรแต่ละใบ

🔹 รวบหนี้ด้วยการรีไฟแนนซ์

หากมีหนี้หลายใบ อาจรวมหนี้เป็นสินเชื่อเดียวเพื่อให้ดอกเบี้ยต่ำและผ่อนสบายขึ้น

🔹 รักษาพฤติกรรมการจ่ายอย่างสม่ำเสมอ

จ่ายเต็ม จ่ายตรงเวลา ไม่ผิดนัด และไม่สร้างหนี้ใหม่เพิ่ม


💬 คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

Q: ผ่อนบัตรเครดิตอยู่ทุกเดือน แต่จ่ายเต็มตลอด จะกู้ผ่านไหม?

A: มีโอกาสผ่านสูง หากภาระหนี้รวมไม่เกิน 40% ของรายได้ และไม่มีประวัติค้างจ่าย

Q: ถ้ามีบัตรเครดิตหลายใบ แต่ไม่ใช้ จะมีผลไหม?

A: ถ้าไม่มีภาระหนี้ ก็มักไม่มีผลลบ แต่อาจถูกถามเรื่องเหตุผลที่เปิดหลายใบ

Q: ต้องปิดบัตรเครดิตทุกใบก่อนยื่นกู้ไหม?

A: ไม่จำเป็นต้องปิดทุกใบ แต่ควรลดภาระให้มากที่สุด และใช้เท่าที่จำเป็น


✅ สรุป

การมีหนี้บัตรเครดิตไม่ได้แปลว่าคุณจะกู้บ้านไม่ได้
แต่สิ่งสำคัญคือ “พฤติกรรมทางการเงิน” และ “ความสามารถในการจัดการหนี้”
หากคุณมีวินัยในการจ่าย เคลียร์ยอดหนี้ได้เหมาะสม และจัดการภาระต่อเดือนอย่างชาญฉลาด

ธนาคารก็พร้อมเปิดโอกาสให้คุณได้เป็นเจ้าของบ้านในฝันอย่างแน่นอนครับ

หากคุณสนใจรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ โครงการบ้านสุขใจสามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่: www.baansookjai.com

รีวิวลูกค้าของเรา

อยากมีบ้าน ปรึกษาเรา

บริการที่ปรึกษาเพื่อการซื้อบ้าน พร้อมให้คำแนะนำเพื่อให้การซื้อบ้านง่ายขึ้น

เราช่วยให้คุณมีบ้านได้
เพียงลงทะเบียนรับคำแนะนำการกู้ซิ้อบ้าน